ฮั่นยฺหวี่พินอิน: 汉语拼音 Hànyǔ pīnyīn แปลว่า การถอดเสียงภาษาจีน คือระบบในการถ่ายถอดเสียงภาษาจีนมาตรฐาน ด้วยตัวอักษรโรมัน ความหมายของพินอินคือ "การรวมเสียงเข้าด้วยกัน" ( การเขียนแบบสัทศาสตร์ การสะกด การถ่ายถอดเสียง หรือการทับศัพท์)
拼音(pinyin) หมายถึง ตัวอักษรโรมันที่ใช้ในการกำกับการออกเสียงของภาษาจีน คนไทยที่เรียนภาษาจีนนิยมพูดเป็นคำทับศัพท์คือ พินอิน (pinyin) หรือไม่ก็แปลเป็นสัทอักษร
สาเหตุที่การเรียนการสอนภาษาจีนต้องอาศัย 拼音(pinyin) ก็เนื่องจากระบบการเขียนภาษาจีนไม่ได้แสดงการออกเสียง การเรียนรู้การออกเสียงในภาษาจีนจึงจำเป็นต้องอาศัยเครื่องหมายกำกับการออกเสียงเข้ามาช่วย
องค์ประกอบของสัทอักษรพินอิน
1. พยางค์ 声母 shēngmǔ
2. พยัญชนะ 韵母 yùnmǔ
3. สระ 声调 shēngdiào
声母 shēngmŭ พยัญชนะ
1. พยัญชนะต้นของภาษาจีนมี 21 เสียง
b (ปัว / ปอ) p (พัว / พอ) m (มัว / มอ) f (ฟัว / ฟอ)
d (เตอ) t (เธอ) n (เนอ) l (เลอ)
g (เกอ) k (เคอ) h (เฮอ) j (จี)
q (ชี) x (ซี) z (จือ) c (ชือ)
s (ซือ) zh (จรือ) ch (ชรือ) sh (ซรือ) r (ยรือ)
หมายเหตุ zh ch sh r ให้ออกเสียงโดยยกปลายลิ้นขึ้นแตะบริเวณเพดานปาก ในการสะกดเสียงอ่านแบบไทยนั้น ผู้เขียนได้เลือกอักษร “ ร ” เป็นตัวแทนการออกเสียงยกลิ้นขึ้น มิได้หมายถึงให้สะกดเป็น จะ-รือ ชะ-รือ ซะ – รือ ยะ-รือ แต่ให้ออกเสียงควบกัน
2. พยัญชนะต้นกึ่งสระมี 2 เสียง คือ
y (i อี) และ w (u อู)
韵母 yùnmǔ สระ แบ่งออกเป็นสระเดี่ยว และสระผสม ดังนี้
1. 单韵母 สระเดี่ยว มี 6 เสียง ดังนี้
a (อา) o (โอ) e (เออ) i (อี) u (อู) ü ( อวี)
** สระ ü จะออกเสียงสระ u (อู) ควบกับ สระ i (อี) ( u + i ) โดยจุดสองจุดที่อยู่ด้านบน u เท่ากับสระ i นั่นเอง
2. 双韵母 สระผสม สังเกตได้ว่าการออกเสียงสระผสม จะเกิดจากเทคนิคการลากเสียงของสระแต่ละเสียงมาชนกัน
声调 shēngdiào วรรณยุกต์
วรรณยุกต์ของจีนมีทั้งสิ้น 4 เสียงโดยแต่ละเสียงจะใช้เครื่องหมายวรรณยุกต์และมีชื่อเรียกเฉพาะแต่มูมู่จะขอเรียกว่า เสียงที่ 1 เสียงที่ 2 เสียงที่ 3 และ เสียงที่ 4 พร้อมทั้งอธิบายเปรียบเทียบกับเสียงวรรณยุกต์ไทย เพื่อสะดวกต่อการเรียนรู้ที่เข้ใจง่ายๆ
เสียงที่ 1 เสียงที่ 2 เสียงที่ 3 เสียงที่ 4
ā á ǎ à
สามัญ ๋ ่ ้
อา อ๋า อ่า อ้า
กฎของการเติมวรรณยุกต์
1. เครื่องหมายวรรณยุกต์จะใส่ไว้ตรงสระเท่านั้น ห้ามใส่ไว้บนพยัญชนะ
2. ห้ามใส่เครื่องหมายวรรณยุกต์ไว้บน –n –ng
3. ตำแหน่งการใส่เครื่องหมายวรรณยุกต์ จะใส่ไว้ตามลำดับ
a o e i u ü
อา โอ เออ อี อู อวี
EX: bāo gěi liè nüē tū
เปา เก่ย เลี่ย เนวีย ทู
5. กรณีที่เป็นสระ ü (อวี) ให้ใส่เครื่องหมายวรรณยุกต์ไว้ข้างบนจุดจุด เช่น nǚ (หนวี่)
4. กรณีที่เป็นสระ i (อี)ให้ใส่เครื่องหมายวรรณยุกต์ทับจุด เช่น lī (ลี)
6. กรณีที่เป็นสระฝาแฝด ( i อี u อู) ให้วางวรรณยุกต์ไว้ที่สระด้านหลังเสมอ เช่น duī (ตุย) diū (ติว)
7. กรณีที่เสียงวรรรยุกต์เสียงที่ 3 เจอเสียงวรรณยุกต์เสียง ที่ 3 ด้วยกัน เสียงข้างหน้าจะเปลี่ยนเป็นเสียงที่ 2 เช่น
ˇ ˇ = ´ ˇ nǐhǎo ออกเสียงเป็น níhǎo (สวัสดี)
หนี่ห่าว หนี ห่าว
Comments